เมื่อคิดถึงฟันผุ จะเป็นภาพฟันกรามที่มีรอยผุขนาดใหญ่เป็นผลจากการเคี้ยวลูกอมและกินมันฝรั่งทอดมานานหลายปี เพราะฟันกรามเป็นบริเวณที่แปรงยากและใช้ไหมขัดฟันไม่ถนัด
ส่วนฟันหน้าทำความสะอาดได้ง่ายกว่า แต่ไม่ได้หมายความว่าจะผุไม่ได้ ฟันทุกซี่สามารถผุได้ทั้งนั้นถ้าดูแลสุขภาพช่องปากไม่ดีพอ
เมื่อฟันหน้าผุทำให้เกิดปัญหาด้านความสวยงามและสุขภาพได้
สาเหตุที่ทำให้ฟันกรามผุก็ทำให้ฟันหน้าผุได้เหมือนกัน:
นอกจากนี้ นักวิจัยได้แสดงความคิดเห็นไว้ที่บทความใน StatPearls ว่า ฟันผุในเด็กเล็กหรือโรคฟันผุในเด็กปฐมวัย (ECC) เป็นโรคที่ทั่วโลกพบในเด็กก่อนวัยเรียนมากกว่าโรคอื่นๆ หากไม่ได้รับการรักษา ฟันผุในเด็กจะนำไปสู่ปัญหาช่องปากหรือปัญหาสุขภาพที่รุนแรงยิ่งขึ้น
ข้อมูลจากสมาคมทันแพทย์เด็กแห่งสหรัฐอเมริกาบนเว็บไซต์ HealthyChild.org ระบุว่า ทารกและเด็กมีความเสี่ยงที่ฟันหน้าจะผุสูงกว่าหากมีพฤติกรรมต่อไปนี้:
เด็กไม่ควรดื่มเครื่องดื่มรสหวาน และให้ดื่มนมและน้ำผลไม้เฉพาะมื้ออาหารเท่านั้น น้ำเปล่าถือว่าดีที่สุดสำหรับให้เด็กดื่มระหว่างวันและก่อนนอน
คุณอาจไม่รู้ตัวว่ามีฟันผุด้วยซ้ำ ดังนั้นจึงแนะนำให้ไปพบทันตแพทย์เพื่อตรวจช่องปากทุก 6 เดือน หรือถ้าสังเกตเห็นรูผุบริเวณฟันหน้า ควรรีบพบทันตแพทย์ทันที ก่อนที่รอยผุจะลุกลาม
การสังเกตุคือถ้าเห็นสีฟันหรือรอยผุเริ่มจากจุดสีขาวจนกลายเป็นสีน้ำตาลอ่อนหรือเทา ให้รีบไปพบทันตแพทย์เพื่อรักษาก่อนฟันจะเปลี่ยนสีเป็นน้ำตาลเข้มหรือดำ อาการค้างเคียงจากฟันผุคือ ปวดฟัน เสียวฟันเมื่อรับประทานอาหารเย็น ร้อน หรือหวาน
วิธีรักษาฟันแท้ด้านหน้าผุคือ ทันตแพทย์จะกำจัดส่วนผุออกและอุดด้วยวัสดุอุดฟัน
ส่วนใหญ่ทันตแพทย์จะใช้วัสดุคอมโพสิตที่ทำจากเรซินพลาสติก มีสีเหมือนฟันและเรียบเงาเหมือนธรรมชาติ การรักษาวิธีนี้ใช้เวลาเพียงครั้งเดียว
บางกรณีทันตแพทย์อาจแนะนำให้รักษารอยผุด้วยวิธีต่อไปนี้เพื่อความสวยงามที่เกิดจากรอยผุบริเวณฟันหน้า:
วิธีรักษาเพื่อความสวยงามนี้ต้องใช้เวลาพบแพทย์ 2 ครั้งขึ้นไป
ทันตแพทย์จะช่วยคุณเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมที่สุด
ลดความเสี่ยงในการเกิดฟันหน้าผุด้วยวิธีง่ายๆ ดังนี้:
การดูแลสุขภาพช่องปากเป็นประจำจะรักษารอยยิ้มที่สดใสไว้ได้ตลอดชีวิตของคุณ หลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล ทำความสะอาดและใช้ไหมขัดฟันวันละ 2 ครั้งเพื่อสุขภาพช่องปากที่ดี
บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความเข้าใจและให้ความรู้ในเรื่องสุขภาพช่องปากทั่วไป ไม่ได้ใช้เพื่อแทนคำแนะนำ การวินิจฉัย หรือการรักษาจากผู้เชี่ยวชาญด้านทันตกรรม หากคุณมีคำถามเกี่ยวกับอาการหรือการรักษาทางการแพทย์ โปรดขอคำแนะนำจากทันตแพทย์หรือผู้ให้บริการด้านสุขภาพที่มีคุณสมบัติเหมาะสม
